รู้จักคำเสริมบอกอาการ 着 了 过

การใช้ 着 了 过 โดยสถาบันภาษาจีนเลิร์นนิ่งอีสท์

 

大家好!บทความไวยากรณ์ภาษาจีนวันนี้ สถาบันภาษาจีนเลิร์นนิ่งอีสท์ มีเรื่อง 着 (zhe)、了 (le)、过 (guò) ซึ่งเป็นกลุ่มคำเสริมบอกอาการ หรือที่ในภาษาจีนเรียก 动态助词 (dòngtàizhùcí) มาฝากกัน โดยปกติแล้วเราจะพบคำเสริมบอกอาการเหล่านี้วางไว้ในตำแหน่งเดียวกันคือใช้ตามหลังคำกริยา หลายคนที่เรียนภาษาจีนคงได้พบเจอคำเหล่านี้อยู่แล้วโดยเฉพาะ 了 แต่วันนี้เหล่าซือจะพามาสังเกตรูปแบบการใช้ทั้งสามคำให้ชัดเจนมากขึ้นค่ะ

 

การใช้  

” ใช้ตามหลังคำกริยา เพื่อแสดงว่ากริยาหรือการกระทำนั้นกำลังดำเนินอยู่ระหว่างช่วงเวลาที่กล่าวถึง ไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบันหรืออนาคต รวมทั้งเพื่อแสดงสถานะใดก็ตามที่กำลังเป็นหรือกำลังเกิดขึ้นอยู่ หากใช้ร่วมกับกริยาที่มีบทกรรม กรรมของประโยคต้องวางไว้หลังคำเสริมบอกอาการ 着 เสมอ 

一)我们都带手机。                             

Wǒmen dōu dài zhe shǒujī.

พวกเราต่างก็พกโทรศัพท์มือถือติดตัวไว้

二)我回来的时候,他家的门开呢。    

Wǒ huí lái de shíhou, tā jiā de mén kāi zhe ne.

ตอนที่ฉันกลับมา ประตูบ้านของเขาเปิดอยู่

 

” มักใช้ร่วมกับ ...()” หรือ ...() 

一)他们昨天的考试呢。                    

Tāmen zài tán zhe zuótiān de kǎoshì ne.

พวกเขากำลังคุยกันเรื่องการสอบของเมื่อวาน

二)爸爸进来的时候,我给他打电话。     

Bàba jìn lái de shíhou, wǒ zhèng gěi tā dǎ zhe diànhuà.

ตอนที่คุณพ่อเข้า(บ้าน)มา ฉันกำลังโทรหาเขาอยู่พอดี

 

” ใช้กับรูปปฏิเสธ “()... 

一)报告上调查单位。             

Bàogào shang méi xiě zhe diàochá dānwèi.

ในรายงานไม่ได้ระบุหน่วยงานที่ทำการสำรวจ

 

” ใช้กับรูปคำถาม โดยเติม 没有 หรือ 吗 ด้านหลังประโยคบอกเล่าได้เลย 

一)你带汉语词典没有                  

Nǐ dài zhe hànyǔ cídiǎn méiyou?

คุณได้พกพจนานุกรมจีนมาด้วยหรือเปล่า

二)外边下                                  

Wàibian xià zhema?

ข้างนอกฝนกำลังตกอยู่ไหม

 


 

การใช้ 

” ใช้ตามหลังคำกริยา เพื่อแสดงว่ากริยานั้นเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว หากใช้ร่วมกับกริยาที่มีบทกรรม กรรมของประโยคต้องวางไว้หลังคำเสริมบอกอาการ 了 เสมอ โดยด้านหน้าบทกรรมต้องประกอบด้วยวลีที่บอกจำนวน (วลีตัวเลข-ลักษณนาม) หรือบทขยายนาม

一)哥哥买一杯奶茶。                        

Gēge mǎi le yī bēi nǎichá.

พี่ชายซื้อชานมมาแก้วหนึ่ง

二)这些年我学习不少新知识。  

Zhè xiē nián wǒ xuéxí le bùshǎo xīn zhīshi.

ช่วงไม่กี่ปีมานี้ฉันได้เรียนรู้สิ่งใหม่มาไม่น้อย

 

” หากใช้ร่วมกับกริยาที่มีบทกรรมเป็นเพียงคำ 1 คำ จะเป็นได้ตามกรณีดังนี้

1. ให้เติมคำเสริมบอกน้ำเสียงหรือ 语气助词 (yǔqìzhùcí) “ ที่ท้ายประโยค และมักละคำเสริมบอกอาการหรือ 动态助词(dòngtàizhùcí) “” ที่ในประโยค

一)我吃()                                     

Wǒ chī (le) fàn le.

ฉันกินข้าว(เสร็จ)แล้ว

2. ให้เติมบทขยายบทกริยาหรือ 状语 (zhuàngyǔ) ด้านหน้าคำกริยา 

一)我和他一起相。                        

Wǒ hé tā yīqǐ zhào le xiàng.

ฉันถ่ายภาพร่วมกับเขาแล้ว

3. ให้เติมคำกริยาหรืออนุประโยคอื่นด้านหลังกรรมที่เป็นคำเดี่ยวนั้น เพื่อให้เห็นว่าเหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์แรกสิ้นสุดสมบูรณ์แล้ว 

一)姐姐关门就走。                             

Jiějie guān le mén jiù zǒu.

พี่สาวปิดประตูแล้วก็ออกไป

 

” มักใช้ร่วมกับคำกริยาวิเศษณ์ “已经” 

一)这个月,她已经买了三条裙子    

Zhè ge yuè, tā yǐjīng mǎi le sān tiáo qúnzi le.

เดือนนี้เขาซื้อกระโปรงไป 3 ตัวแล้ว

二)她的病已经                             

Tā de bìng yǐjīng hǎo le.

อาการป่วยของเขาหายดีแล้ว

 

” ใช้กับรูปปฏิเสธ “()...” โดยให้ตัด 了 ออก

一)今天的作业我做完。                  

Jīntiān de zuòyè wǒ méi zuò wán.

การบ้านของวันนี้ฉันยังทำไม่เสร็จ

二)昨天妈妈买水果。                        

Zuótiān māma méi mǎi shuǐguǒ.

เมื่อวานนี้คุณแม่ไม่ได้ซื้อผลไม้

 

” ใช้กับรูปคำถาม โดยเติม 没有 หรือ 吗 ด้านหลังประโยคบอกเล่าได้เลย

一)这本书你看了没有                        

Zhè běn shū nǐ kàn le méiyou?

หนังสือเล่มนี้คุณอ่านไปแล้วหรือยัง

二)你们听懂了吗                                  

Nǐmen tīng dǒng le ma?

พวกคุณฟังเข้าใจแล้วไหม

 


 

การใช้ 

” ใช้ตามหลังคำกริยา เพื่อแสดงว่าในอดีตเคยผ่านประสบการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งมาก่อน หากใช้ร่วมกับกริยาที่มีบทกรรม กรรมของประโยคต้องวางไว้หลังคำเสริมบอกอาการ 过 เสมอ

一)我去中国。                                        

Wǒ qù guò Zhōngguó.

ฉันเคยไปประเทศจีน

二)弟弟也吃奶奶做的饺子。                    

Dìdi yě chī guò nǎinai zuò de jiǎozi.

น้องชายก็เคยกินเกี๊ยวที่คุณย่าทำ

 

” หากใช้ร่วมกับกริยาที่มีบทเสริมบทกริยาเพื่อบอกผลหรือ 结果补语 (jiéguǒbǔyǔ) ให้วางบทเสริมบทกริยาเพื่อบอกผลนั้นตามหลังคำกริยาได้เลย จึงค่อยเติม 过 ที่ด้านหลัง

一)你在哪儿看我妈妈?             

Nǐ zài nǎr kàn jiàn guò wǒ mama?

นายเคยเห็นแม่ของฉันจากที่ไหน

二)我念这个字。                             

Wǒ niàn cuò guò zhè ge zì.

ฉันเคยอ่านอักษรตัวนี้ผิด

 

” มักใช้ร่วมกับคำกริยาวิเศษณ์ “曾经

一)他们曾经一次恋爱。             

Tāmen céngjīng tán guò yī cì liàn’ài.

พวกเขาเคยคบหารักใคร่กันมาก่อน

二)我曾经感染新冠病毒。             

céngjīng gǎnrǎn guò xīnguānbìngdú.

ฉันเคยติดเชื้อไวรัสโควิด

 

” ใช้กับรูปปฏิเสธ “()...

一)他大象。                                  

méiguò dàxiàng.

เขาไม่เคยขี่ช้าง

 

” ใช้กับรูปคำถาม โดยเติม 没有 หรือ 吗 ด้านหลังประโยคบอกเล่าได้เลย หรืออาจใช้รูปคำถามแบบยืนยันปฏิเสธได้

一)你听这首歌没有                        

Nǐ tīng guò zhè shǒu gē méiyou?

คุณเคยได้ยินเพลงนี้หรือยัง

二)你们来泰国春武里府                    

Nǐmen lái guò Tàiguó Chūnwǔlǐfǔ ma?

พวกคุณเคยมาที่จังหวัดชลบุรี(ของประเทศไทย)แล้วไหม

三)A:你()没听过这首歌?                    

tīng (guò) méi tīng guò zhè shǒu gē?

คุณเคยได้ยินเพลงนี้หรือยัง

B:没有。(我没听过。)             

Méiyou. (Wǒ méi tīng guò.)

ไม่เคย (ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน)

 


 

 

สรุป

โดยสรุปแล้ว 着、了 และ 过 เป็นคำเสริมบอกอาการที่วางไว้ด้านหลังคำกริยาเหมือนกัน ไม่สามารถวางบทกรรมแทรกระหว่างคำเหล่านี้และคำกริยาได้ หากเป็นบทกรรมที่ใช้กับ 了 จำเป็นต้องใส่วลีที่บอกจำนวนหรือใส่บทขยายนามด้านหน้าบทกรรมด้วย รูปประโยคปฏิเสธของทั้งสามคำจะเป็น “ +V. ” แล้วเติม 着 หรือ  ส่วน 了 ต้องถูกตัดทิ้ง เมื่อจำแนกตามวัตถุประสงค์การใช้งานจะเห็นภาพความต่างของทั้งสามคำได้ชัดเจนขึ้น เนื่องจาก 着 ใช้บอกสภาพของกริยาที่กำลังดำเนินอยู่ ณ ช่วงเวลาที่อ้างถึง ขณะที่ 了 ใช้บอกสภาพของกริยาที่เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ส่วน 过 ใช้บอกสภาพของกริยาที่เป็นประสบการณ์ในอดีต ลองเช็คความเข้าใจจากแบบฝึกหัดด้านล่างกันค่ะ

 

∞ ทดสอบความเข้าใจ 

1. 你看!今天她穿着白裙子,真漂亮!                    

คุณดูสิ วันนี้เขาใส่กระโปรงสีขาว สวยจังเลยเนาะ

Nǐ kàn! Jīntiān tā chuān zhe bái qúnzi, zhēn piàoliang!

2. 学校大门没开了。              

ประตูใหญ่ของโรงเรียนไม่ได้เปิดไว้

Xuéxiào dàmén méi kāi le.

3. 我没跟她一起工作过。                

ฉันไม่เคยทำงานร่วมกับเขามาก่อน

Wǒ méi gēn tā yīqǐ gōngzuò guò.

4. 他已经去了医院了吗?                

เขาไปโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วไหม

Tā yǐjīng qù le yīyuàn le ma?

5. 我妹妹正学过法文呢。                

น้องสาวของฉันเคยเรียนภาษาฝรั่งเศส

Wǒ mèimei zhèng xué guò Fǎwén ne.

 

∞ ย 

ข้อ 1, 3, 4 ถูกต้อง ส่วนข้อ 2, 5 ผิดค่ะ 

หากจะแก้ไขให้ถูกต้องควรเป็น

2. 学校大门没开。เพราะรูปปฏิเสธของ 了 ต้องตัด 了 ทิ้ง  

5. 我妹妹学过法文。เพราะ “” นั้นใช้ร่วมกับ 着 ไม่ใช่  และจากความหมายของประโยคพูดถึงประสบการณ์การเรียนของน้องสาวจึงใช้ 

 

ครั้งต่อไปเหล่าซือและ สถาบันภาษาจีนเลิร์นนิ่งอีสท์ จะมีความรู้ภาษาจีนเรื่องอะไรมาฝากกันอีกต้องคอยติดตามนะคะ 再见!

 


 

"เรียนภาษาจีนมาหลายปีแต่พูดไม่ได้สักที...เป็นเพราะแบบนี้หรือเปล่า?"

  

คอร์สภาษาจีนออนไลน์เพื่อการสื่อสาร โดยสถาบันภาษาจีนเลิร์นนิ่งอีสท์

 

คอร์สภาษาจีนออนไลน์เพื่อการสื่อสาร โดยสถาบันภาษาจีน Learning East

  

คุณเป็นคนนึงหรือเปล่าที่เรียนภาษาจีนมาหลายปีแต่ยังสื่อสารไม่ได้สักที?

ถ้าคำตอบคือ 'ใช่' ไม่ต้องแปลกใจ เพราะมีนักเรียนไทยมากมายที่ประสบปัญหานี้เช่นกัน

จบปัญหาเรียนจีนแต่พูดไม่ได้ฟังไม่ออก ใน 'คอร์สภาษาจีนออนไลน์เพื่อการสื่อสาร (แบบกลุ่ม)' จากสถาบันภาษาจีนเลิร์นนิ่งอีสท์

  • เน้นพัฒนาทักษะการฟัง-พูดเพื่อการสื่อสารโดยเฉพาะ
  • เรียนสดเป็นกลุ่มเล็กแบบออนไลน์ ฝึกฝนทั่วถึง
  • บทเรียนมีประสิทธิภาพ ใช้สื่อสารได้จริง
  • สอนโดยเหล่าซือชาวจีนที่มีประสบการณ์สอน นร. ไทยและต่างชาติ

 


สอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ของเรา กดปุ่มด้านล่างได้เลยค่ะ

 


Visitors: 262,332